Support
4life Immunity
0816516654
Your shopping cart
ดูตะกร้าสินค้าของคุณ
ไม่มีสินค้าในตะกร้าของคุณ

ชักจากไข้สูงในเด็ก ไม่น่ากลัวอย่างที่คิด ถ้าคุณพ่อคุณแม่มีความรู้ ตอนที่2 การรักษา

วันที่: 2013-04-28 13:58:39.0view 32676reply 0

ชักจากไข้สูงในเด็ก ไม่น่ากลัวอย่างที่คิด ถ้าคุณพ่อคุณแม่มีความรู้ ตอนที่2 การรักษา

มาต่อกันนะครับ ตอนที่แล้วลืมบอไปว่าไข้สูงคือไ
ข้ที่มากกว่า 38.3 องศาเซลเซียส แต่มักจะพบอาารชักเมื่อไข้สูงเกิน 38.5-39 องศาเซลเซียวนะครับ

เมื่อพยายามลดไข้แล้วแต่ไข้ไม่ล
งจริงๆจนลูกชักในที่สุด สิ่งที่คุณพ่อคุณแม่ต้องทำเป็นอย่างแรกคือ"มีสติ" ครับ อย่าตกใจ
... ดูนาฬิกาเวลาที่ลูกเริ่มชัก จำไว้ รีบโทรตามรถพยาบาลหรือรีบมาโรงพ
ยาบาลทันทีครับระหว่างทางไปโรงพยาบาล ยังคงเช็ดตัวตามวิธีที่บอกไปเรื่อยๆ นะครับตะแคงตัวเด็กเพื่อป้องกันการอาเจียนแล้วสำลัก ไม่ต้องหาอะไรยัดปากนะครับ จะทำให้เกิดการบาดเจ็บในปากเพิ่มเติมอีก ถ้าหยุดชักระหว่างทางมาโรงพยาบาลให้ดูเวลาอีกครั้งว่าลูกชักไปนานแค่ไหน

เมื่อมาถึงโรงพยาบาลแล้วเด็กยัง
ชักอยู่คุณหมอจะฉีดยากันชัก ทันที ให้น้ำเกลือ เก็บเลือดไปตรวจแล้วซักถามอาการ ประวัติต่างๆจากคุณพ่อคุณแม่
ระยะเวลาที่ชัก อาการไข้อาการต่าง ประวัติโรคประจำตัว ประวัติลมชักในครอบครัวเป็นต้น และทำการตรวจร่างกาย
คุณพ่อคุณแม่ต้องมีสติดีๆครับอย
่าตกใจ ให้ประวัติให้ครบถ้วนเพราะประวัติต่างๆเหล่านี้มีผลในการช่วยการรักษาและวินิจฉัยได้มากครับ
ในเคสทั่วๆไป เมื่อให้ยากันชักทางเส้นเลือดเด
็กก็มักจะหยุดชักทันที
และจะกลับมาร้อง มีสติตามปกติภายใน 1 ชม.นะครับ (ถ้ายังไม่หยุดชักซึ่งพบได้น้อย
ก็จะมีวิธีการรักษาต่อไปครับ)

อาการชักจากไข้สูงมีสาเหตุของไขh
ได้หลากหลายครับ โดยส่วนมากก็เป็นการติดเชื้อไวรัส ในทางเดินหายใจทางเดินอาหาร
มีไอ น้ำมูก เจ็บคอ ท้องเสีย อาเจียนร่วมด้วย สิ่งหนึ่งที่ต้องระวังคือการติด
เชื้อในทางเดินปัสสาวะ ซึ่งในเด็กเค้าจะบอกอาการเราไม่ได้
อย่างในผู้ใหญ่จะมีอาการ เช่น ปัสสาวะแสบขัด ปวดหลังเวลาเคาะ จึงต้องตรวจปัสสาวะในทุกเคสที่ม
ีอาการชักจากไข้สูงครับ
ซึ่งการหาสาเหตุของไข้นี้จะทำไดh
จากการตรวจร่างกาย ตรวจ lab ดูผลเลือด ผลปัสสาวะ ตามอาการป่วยของเด็กนะครับ


ถ้ายังจำได้ในบทความตอนที่ 1 การวินิจฉัยชักจากไข้สูง ผมบอกว่าต้องแยกการติดเชื้อในระ
บบประสาท/สมองออกด้วย
การแยกนี้ในเด็กที่โตหน่อย ตั้งแต่ 1-2 ขวบจะสามารถทำได้ด้วยการตรวจร่า
งกาย โดยจะพบลักษณะเช่น คอแข็ง (neck stiffness)
ในเด็กที่มีเยื่อหุ้มสมองอักเสบ
หรือไข้สมองอักเสบบางอย่าง ซึ่งต้องได้รับการตรวจเพิ่มเติมเพื่อหาเชื้อโดยการเจาะหลังเอาน้ำไขสันหลังไปตรวจเพาะเชื้อครับ แต่ในเด็กเล็กๆ เช่นอายุน้อยกว่า 12-18 เดือนการตรวจร่างกายทำได้ยาก ดังนั้นหากสงสัยคุณหมออาจจะพิจารณาขอคุณพ่อคุณแม่ เจาะหลังน้องเพื่อเอาน้ำเลี้ยงไขสันหลังไปตรวจเพื่อแยกว่าไม่มีการติดเชื้อในสมองนะครับ ซึ่งเป็นหัตการปกติอันตรายมีน้อยและเป็นสิ่งที่จำเป็นครับไม่ต้องกังวลไป เพราะหากมีการติดเชื้อในระบบประสาทและสมองแล้วได้รับการรักษาช้า จะส่งผลกับสมองและพัฒนาการระยะยาวได้

การรักษาหลังหยุดชักก็จะเป็นการ
รักษาสาเหตุของไข้ตามที่ตรวจพบครับ เช่น การให้ยาฆ่าเชื้อตามชนิดของเชื้อ ให้สารน้ำทางเส้นเลือดในช่วงที่เด็กยังกินได้น้อยให้ยาลดไข้เมื่อมีไข้ เมื่อไข้ลงดีเรียบร้อย เด็กกินได้ตามปกติ ให้ยาฆ่าเชื้อครบก็สามารถกลับบ้
านได้ครับ ^^
มีต่อกับคำถามที่ทุกคนอยากรู้ ตอนที่ 3 นะครับ


Admin Dr.Jame
ดูเพิ่มเติม

 
All Replys: 0   Pages: 1/0