วันที่: 07-01-2011
แนวทางการรักษาใหม่เพิ่ม N.K.Cell กำจัดมะเร็ง
โดย ร.ศ.ดร.นพ.กำพล ศรีวัฒนกุล
สรรพสารวงการแพทย์
ในบรรดาโรคเรื้อรังที่พบเห็นอยู่ในปัจจุบัน “โรคมะเร็ง” ถือได้ว่าเป็นโรคเรื้อรังที่ร้ายกาจที่สุด เพราะสามารถกระจายไปทั่วร่างกายได้เมื่อมีเซลล์มะเร็งในร่างกาย ทั่วโลกจึงได้ให้ความสนใจในการรักษารวมทั้งการป้องกัน แต่วิธีการรักษาที่ยังใช้กันอยู่ในขณะนี้ ไม่ว่าจะเป็น การผ่าตัด การให้เคมีบำบัด
การฉายรังสี นั้นยังไม่เพียงพอต่อการรักษา
นักวิจัยจึงพยายามคิดค้นหาวิธีอื่นที่จะเข้าไปช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันใน ร่างกาย โดยยึดแนวทางในการทำงานของเซลล์เม็ดเลือดขาว ซึ่ง ร.ศ.ดร.นพ.กำพล ศรีวัฒนกุล ผู้อำนวยการศูนย์การแพทย์บูรณาการ (COMED) ได้อธิบายถึงวิธีการสร้างภูมิคุ้มกันของเซลล์เม็ดเลือดขาวนี้ว่า ได้เคยทำงานร่วมกับนักวิจัยของมหาวิทยาลัยมหิดล ในการหาแนวทางการรักษาผู้ป่วยที่เป็นมะเร็ง
ก็พบว่า วิธีการรักษาด้วยเคมีบำบัดนั้นยังมีข้อจำกัดในการรักษา อาจทำให้ผู้ป่วยอาจเสียชีวิตได้ เพราะเคมีบำบัดจะไปทำลายเซลล์ผิดปกติและเซลล์มะเร็ง ซึ่งหากไปทำลายเซลล์ผิดปกติจะทำให้ทำลายได้ง่ายกว่า จึงได้พยายามคิดค้นหาวิธีการอื่นใดที่จะช่วยให้การใช้วิธีการรักษาด้วยเคมี บำบัดไปทำลายเซลล์ผิดปกติด้วย
และก็ค้นพบแนวคิดหนึ่งที่ว่า การเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง ซึ่งต่อมาได้ทำการวิจัยโดยนำสารต่างๆ มาทดลอง เช่น เห็ดหลินจือ เบตาฟูลแคล แต่ว่ามีสารอยู่ตัวหนึ่งที่เรียกว่า สารอะราบิน็อกซิแลน เฮมิเซลลูโลส (Arabinoxylan Hemicellulose) จากเอนไซม์ในเห็ดชิตาเกะ ซึ่งเป็นสารที่จะช่วย
ในการเสริมสร้างภูมิคุ้มกันได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด เพราะกลไกในการทำงาน สามารถกระตุ้นเซลล์เพชฌฆาต (NK.Cell) ได้ชัดเจน
ในธรรมชาติเซลล์เพชฌฆาตจะเป็นตัวที่คอยทำลายไวรัสกับเซลล์มะเร็ง โดยการทำลายจะเข้าไปจับเซลล์มะเร็งหรือไวรัสทันทีที่พบเห็นอย่างไม่เฉพาะ เจาะจง เมื่อ NK.cell ไปพบเซลล์เป้าหมาย จะจัดการยิงกระสุนเข้าใส่เซลล์มะเร็งหรือไวรัส จากถุงเล็กๆ (Granule) ที่มีอยู่ในตัว แล้วยังพบว่า เซลล์เพชฌฆาตในคนที่เป็นมะเร็งอาจจะมีไม่เท่ากับคนปกติ ซึ่งในเซลล์เพชฌฆาตจะมี Granule อยู่ภายในน้อยมาก ทำให้การทำลายเซลล์มะเร็งในร่างกายทำได้น้อยมาก ดังนั้น ถ้าใน Granule มีกระสุนอยู่เต็มพิกัดย่อมสามารถกำจัดมะเร็งและเชื้อโรคได้เต็มประสิทธิภาพ
เมื่อใส่สาร อะราบิน็อกซิแลน เฮมิเซลลูโลส (Arabinoxylan Hemicellulose) เข้าไป จะไปทำให้เซลล์เพชฌฆาตมี Granule มากขึ้น ซึ่งก็จะมีผลทำให้ไปทำลายเซลล์มะเร็งได้มากขึ้น ซึ่งปัจจุบันนี้สามารถทำได้สำเร็จแล้ว ยังในอนาคตยังมีการคาดการณ์ไปถึงว่า จะสามารถเข้าไปทำลายไวรัสตับอักเสบซึ่งมีการติดเชื้อบ่อยครั้งได้ด้วย
ข้อมูลสำคัญของเซลล์เพชฌฆาต N.K. Cell
ในระบบภูมิคุ้มกันประกอบไปด้วยเซลล์เม็ดเลือดขาวมี B cell, T cell ทำหน้าที่คอยตรวจจับสิ่งแปลกปลอมที่สูงร่างกาย จดจำลักษณะของสิ่งแปลกปลอมเหล่านั้น และทำลายล้างให้หมดสิ้นเมื่อพบเห็น และยังมี NK cell อันชาญฉลาดที่ถูกค้นพบในช่วงทศวรรษที่ 70 คอยเฝ้าระวังและทำลายเซลล์แปลกปลอมที่หลุดรอดมาจาก B cell, T cell และเซลล์ผิดปกติที่เกิดขึ้นในร่างกายเอง ก่อนที่เซลล์เหล่านั้นจะมีโอกาสพัฒนาไปเป็นเนื้อร้ายและมะเร็ง
จาก การวิจัยของนักวิทยาศาสตร์พบว่า NK cell คือ เซลล์ที่มีความสำคัญอย่างยิ่งในการต่อต้านและจัดการกับเซลล์มะเร็งในร่างกาย ในรายของผู้ที่ NK cell มีประสิทธิภาพในการทำงานสูง ก็จะมีความสามารถในการป้องกันตนเองจากโรคมะเร็งสูง ในขณะเดียวกันในรายของผู้ป่วยมะเร็งที่ NK cell มีประสิทธิภาพในการทำงานสูง ก็จะสามารถฟื้นตัวจากภาวะของการเจ็บป่วยได้เร็วขึ้นเช่นกัน รายงานการวิจัยทางการแพทย์ยังยืนยันด้วยว่า อัตราการอยู่รอดของผู้ป่วยมะเร็งกับอัตราที่เพิ่มขึ้นของประสิทธิภาพของ NK Cell สัมพันธ์กันอย่างมีนัยสำคัญ
แนวทางในการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันจากสารอะราบิน็อกซิแลน เฮมิเซลลูโลส เนื่อง จากสาร อะราบิน็อกซิแลน เฮมิเซลลูโลส (Arabinoxylan Hemicellulose) เป็นส่วนประกอบที่มาจากกากใยอาหาร ชนิด soluble fiber และมีประโยชน์ในการปรับสมดุลในร่างกาย เช่น การดูดซึมสารอาหารได้ดีขึ้น ภาวะที่มีการรั่วซึมของเยื่อบุลำไส้ และช่วยในการขจัดอนุมูลอิสระ ทำให้มีประโยชน์ในหลายด้าน ทำให้สารนี้ใช้ในเชิงป้องกันและรักษาได้
สารอะราบิน็อกซิแลน เฮมิเซลลูโลส (Arabinoxylan Hemicellulose) จะเข้าไปช่วย กระตุ้นสร้าง Granule และหากได้รับสารนี้เข้าไปประมาณ 1 สัปดาห์ก็จะทำให้เกิดการกระตุ้นภูมิคุ้มกันได้อย่างชัดเจน และผลสูงสุด 1 เดือนถ้าได้รับเข้าไปอย่างต่อเนื่อง
ในงานวิจัยล่าสุดจากสหรัฐอเมริกาพบว่า สามารถกระตุ้นกระบวนการ Apoptosis ในเซลล์มะเร็ง ทำให้เซลล์มะเร็งทำลายตัวเองได้ ซึ่งจะมีผลทำให้เซลล์มะเร็งกลายเป็นเซลล์ผิดปกติ เมื่อทำลายตัวเองก็จะลดจำนวนลง อันจะเป็นการผิดธรรมชาติของการแบ่งตัวของเซลล์มะเร็ง
ถ้าผู้ป่วยที่เป็นมะเร็งและจะต้องทำการผ่าตัดมะเร็ง จะต้องมีขั้นตอนในการเตรียมเซลล์เพชฌฆาตให้พร้อม เพราะเมื่อมีการลงมือผ่าตัดแล้ว เซลล์มะเร็งจะกระจายไปทั่วทั้งร่างกาย (tumor seeding) หากมีการเตรียมความพร้อมในเรื่องเซลล์เพชฌฆาตแล้วก็จะทำให้การกระจายตัวของ เซลล์มะเร็งนั้นถูกทำลาย
การใช้ร่วมกับเคมีบำบัด จะเข้าไปเสริมประสิทธิภาพได้ โดยเคมีบำบัดจะไปทำลาย และตัวนี้จะเข้าไปเสริมภูมิคุ้มกันที่จะไปทำลายเซลล์มะเร็งอย่างต่อเนื่อง ได้ นอกจากนี้ยัง ลดผลข้างเคียง เช่น ผมร่วง ทำให้ไปเพิ่มคุณภาพชีวิตของผู้ป่วย และช่วยยืดชีวิตของผู้ป่วยได้ด้วย และหากใช้วิธีนี้ร่วมกับสเต็มเซลล์จะยิ่งได้ผลดี
ในส่วนของผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของสาร อะราบิน็อกซิแลน เฮมิเซลลูโลส (Arabinoxylan Hemicellulose) ที่มีอยู่ในปัจจุบัน LENTIN PLUS 1000 เป็นชื่อหนึ่งที่ได้รับการรับรองแล้วว่าได้ผลดีในการเสริมสร้างระบบภูมิคุ้ม กัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งจะช่วยให้การทำงานของ Granule
ในเซลล์เพชฌฆาต N.K.Cell มีประสิทธิภาพในการทำลายเซลล์มะเร็งและไวรัสได้มากยิ่งขึ้น LENTIN PLUS 1000 เป็นผลิตภัณฑ์ที่ผลิตขึ้นโดยอาศัยเส้นใยอาหารชนิดที่ละลายได้ในน้ำที่เรียก ว่า “Hemicellulose B” เป็นวัตถุดิบหลัก ใน Hemicellulose B จะประกอบไปด้วย Arebinoxylan ซึ่งมี Xylose และ Arabinose เป็นโครงสร้างของน้ำตาล และมีน้ำหนักของโมเลกุลที่เบา คุณสมบัติในการกระตุ้นภูมิต้านทานของสาร Hemicellulose B จะสามารถให้ผลได้ดี
คุณลักษณะของ LENTIN PLUS 1000 เป็นสารสกัดจากธัญพืช มีส่วนผสมของ Biobran Arabinoxylan complex เป็นหลัก ที่ได้รับมาตรฐานความปลอดภัย (LD 50 > 36.0 g/kg) ลักษณะผลิตภัณฑ์เป็นผงสีน้ำตาลอ่อน สามารถละลายน้ำได้ดี เมื่อได้รับเข้าสู่ร่างกายจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของภูมิต้านทานในร่างกาย ช่วยทำให้ NK Cell ทำลายเซลล์ที่ผิดปกติได้มากขึ้น
ในการใช้ ผลิตภัณฑ์ชนิดนี้ จะต้องใช้ควบคู่ไปกับการรักษาโรคมะเร็ง เช่น ในขั้นตอนการรักษาด้วยการผ่าตัด การฉายรังสี และการทำเคมีบำบัด ก่อนทำการรักษาจะต้องเพิ่มภูมิต้านทานให้แข็งแรง เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมก่อนการทำ Biopsy (การผ่าตัดตรวจชิ้นเนื้อ) ทั้งนี้เพื่อเป็นการลดความเสี่ยงต่อการแพร่กระจายของเซลล์ ในขณะทำการรักษา อีกทั้งยังเป็นการช่วยลดผลข้างเคียงภายหลังการรักษา
ขนาดบริโภคโดย ทั่วไป สำหรับผู้ใหญ่จะอยู่ระหว่าง 500 มิลลิกรัมถึง 3000 มิลลิกรัม ต่อวัน ในกรณีที่ภูมิคุ้มกันอ่อนแอค่อนข้างมากหรือต้องการการฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว ควรบริโภคในปริมาณวันละ 1000 มิลลิกรัม แต่ถ้าเป็นกรณีที่ภาวะภูมิคุ้มกันอ่อนแออย่างรุนแรง เช่น ในผู้ป่วยที่เป็นโรคมะเร็ง ควรบริโภควันละ 3000 มิลลิกรัม ติดต่อกันเป็นระยะเวลาอย่างน้อย 2 เดือน แล้วจึงลดการบริโภคลงเหลือวันละ 1000 มิลลิกรัม ในเดือนถัดไป การบริโภคอย่างต่อเนื่องจะส่งผลต่อการควบคุมประสิทธิภาพของระบบภูมิคุ้มกัน สูงสุด และหากหยุดการบริโภคประสิทธิภาพของภูมิคุ้มกันจะค่อยๆ ลดลง
เมื่อการรักษาด้วยวิธีการผ่าตัด ทำให้การแพร่กระจายของเซลล์มะเร็งเกิดขึ้น การคิดค้นวิธีในการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันก็น่าจะเป็นวิธีที่ใช้ได้ผลดี เช่นเดียวกับการรักษาด้วยวิธีเคมีบำบัด ที่จะไปทำลายเซลล์มะเร็งและเซลล์ผิดปกติในเวลาเดียวกัน การที่มีสารอะราบิน็อกซิแลน เฮมิเซลลูโลส (Arabinoxylan Hemicellulose) ช่วยเข้าไปกระตุ้นเซลล์เพชฌฆาตในร่างกายก็น่าจะเป็นการช่วยลดการกระจายเซลล์ มะเร็งในร่างกายได้ดี
นับว่าเป็นอีกทางเลือกหนึ่งในการรักษา สำหรับผู้ป่วยที่เป็นโรคมะเร็ง
|
|
|