Support
4life Immunity
0816516654
Your shopping cart
ดูตะกร้าสินค้าของคุณ
ไม่มีสินค้าในตะกร้าของคุณ
guest

Post : 21/05/2011 11:13     Forum: รวมเรื่องผู้หญิงผู้หญิง  >  “ตกขาว” ภัยเงียบของผู้หญิง/นพ.กฤษดา ศิรามพุช

ตอบคุณ นานา

ถ้ามันเยอะมาก ก็ควรไปพบแพทย์นะครับ เพราะอาจเป็นได้ที่สภาวะร่ายกายหรือสมดุลกรด-ด่างในจุดซ่อนเร้นของคุณอาจผิดปกติ และควรรับการตรวจภายในสม่ำเสมอ

หญิงไทยส่วนมากอายที่จะตรวจภายใน ซึ่งเป็นจุดอ่อน ทำให้ถ้าเรามีอาการผิดปกติหรือป่วยหนักมักเจอตอนที่เป็นเยอะแล้ว และยากต่อการเยี่ยวยา

หรือใช้ซันคลาร่าในการดูแลตกขาวก็ได้ผลค่อนข้างดี มีผู้ใช้ได้ผลมาแล้วมากรายครับ แต่ควรพบแพทย์ก่อนนะครับ ไม่แนะนำให้ซื้อยารับประทานเอง

guest
นานา
- Guest -

Post : 20/05/2011 21:37     Forum: รวมเรื่องผู้หญิงผู้หญิง  >  “ตกขาว” ภัยเงียบของผู้หญิง/นพ.กฤษดา ศิรามพุช

คืออยากถามค่ะ ของเราเป็นแบบเยอะมากบางทีรู้สึกเลยค่ะว่ามันไหลออกมามีกลิ่นหน่อยๆอธิบายไม่ถูกเหมือนกันค่ะว่ากลิ่นยังไงที่แน่ๆไม่ถึงขนาดคาวอ่ะค่ะ สีขาวปนเหลืองอ่อนจางๆไม่คันไม่เจ็บปวดอ่ะไรคืออายุ20ค่ะคือเอ่อเคยมีอะไรกะแฟนเเล้วค่ะ แต่อาการนี้เป็นมานานแล้วน่ะค่ะตั้งแต่ตอน13ตอนนั้นยังไม่เคยมีอะไรกะใครค่ะกังวลค่ะเลยมาปรึกษาก่อน

guest
ประสบการณ์
- Guest -

Post : 07/05/2011 15:51     Forum: รวมเรื่องผู้หญิงผู้หญิง  >  “ตกขาว” ภัยเงียบของผู้หญิง/นพ.กฤษดา ศิรามพุช

เพิ่งไปตรวจภายในมาค่ะ ทำไมมันเจ็บสุดๆ แถมมีเลือดออกด้วยค่ะ  หรืออาจเป็นเพราะไม่เคยมีเพศสัมพันธ์มั่ง

เมื่อตรวจดูคุณหมอบอกว่ามีเชื้อราในช่องคลอดเยอะ เลยให้ยามาสอด 3 วัน   แต่ทำไม่เวลาสอดยาเจ็บและแสบที่ช่องคลอดหรือยากำลังฆ่าเชื่อรา เมื่อเวลาผ่านไป เจ้ายาที่สอดไปติดกางเกงใน+มีรอยน้ำอะไรไม่ทราบเปื้อนกางเกงในต้องเปลี่ยนใหม่  

ตอนนี้รู้แล้วค่ะ เจ้าเชื้อราในช่องคลอดที่เป็นอยู่ คือ กางเกงในรัดๆ ไม่เคยตากกางเกงในรับแสงแดด แถมใช้กระดาษทิชชู +ด้วยน้ำยาจุดซ้อนเร้น 

guest
เค
- Guest -

Post : 07/05/2011 10:01     Forum: นานาสาระเก็บมาเล่า  >  รู้จักกันหรือยัง "กลูตาไธโอน" อ่ะดิ

ทานแล้วเห็นผลได้ดี ขาวขื้น ใสขื้น จริง

guest

Post : 06/05/2011 13:02     Forum: รวมเรื่องผู้หญิงผู้หญิง  >  “ตกขาว” ภัยเงียบของผู้หญิง/นพ.กฤษดา ศิรามพุช

ถ้ามันเยอะเกิน ผิดปกติ ก็ไปปรึกษาแพทย์ดีที่สุดครับ อย่าเพิ่งซื้อยาหรืออะไรมาทานเอง เพราะอาจเป็นอันตรายได้ครับ

guest
number
- Guest -

Post : 06/05/2011 12:38     Forum: รวมเรื่องผู้หญิงผู้หญิง  >  “ตกขาว” ภัยเงียบของผู้หญิง/นพ.กฤษดา ศิรามพุช

สรุปว่าถ้ามีตกขาวเหมือนนม แสดงว่าเป็นเชื้อราต้องไปหาหมอซินะ

guest
4life
- Guest -

Post : 19/04/2011 14:40     Forum: สอบถาม  >  การรักษามะเร็งด้วยชีวจิต

ขอบคุณนะครับที่สนใจสอบถามเข้ามานะครับ เรื่องเกี่ยวกับธรรมชาติบำบัดกับเรื่องการแพทย์แผนปัจจุบันนั้น มีผู้สนใจสอบถามเข้ามามากครับ โดยแต่ละฝ่ายส่วนใหญ่ก็จะโต้แย้งกันนะครับ ว่าของตนดีกว่าฝ่ายตรงข้ามนั้นไม่ดีทำให้คนไข้ทรุดและเสียชีวิตหรือไม่ส่งผลต่อการรักษา

แต่จากประสบการณ์ที่ผมดูแลคนที่บ้านซึ่งเป็นมะเร็งถึง2คน(พ่อและแม่) เราได้ทดลองใช้ทุกแนวเลยนะครับ พอดีที่บ้านพอจะมีฐานะก็เลยทดลองใช้หลายวิธี เราพบว่า ไม่ว่าจะเป็นแบบธรรมชาติบำบัดหรือแบบแผนปัจจุบัน ก็ล้วนมีข้อดีและข้อเสียที่แตกต่างกัน ฉะนั้นเราควรใช้เฉพาะด้านดีและส่งเสริมด้านด้อยของแต่ละวิธี ซึ่งแท้จริงแล้วการรักษานั้น เราต้องการผลลัพธ์มากกว่าคือผู้ป่วยต้องหาย หรือมีอาการดีขึ้น ทุเลาลง หรือสามารถดำรงชีวิตอยู่ได้ตามสมควรของอาการโรคจริงไหมครับ

ถ้าให้คุยเรื่องนี้มันยาวครับ ต้องอธิบายเยอะครับว่าแต่ละด้านดีอย่างไร ด้อยอย่างไร

แบบธรรมชาติบำบัดมีข้อดี คือ

ช่วยลดอัตราการเกิดมะเร็งใหม่ได้ดี

ทำให้ผู้ป่วยไม่เครียดระหว่างการรักษา เพราะรู้สึกไม่เหมือนการรักษา เหมาะสำหรับคนที่กลัวแบบปัจจุบัน

มีผลข้างเคียงน้อยจนสังเกตเห็นได้ยาก หรือไม่มี

ค่าใช้จ่ายต่ำ แต่บางครั้งไม่ได้ได้ต่ำจริงนะ เทียบคุณภาพแล้วบอกยากว่าคุ้มไหม?

ข้อเสียของแบบธรรมชาติบำบัด

ไม่สามารถกำจัดมะเร็งที่มีอยู่แล้วได้อย่างมีประสิทธิภาพชัดเจน

ผู้รู้จริงมีน้อย (ส่วนใหญ่ใช้การรักษาในด้านที่ตัวเองเชื่อมั่น ศรัทธา)

ไม่สามารถตามอาการโรคได้อย่างชัดเจน

ไม่สามารถจัดยาสมุนไพรให้เหมาะสมกับปริมาณของโรคได้ (เช่นถ้าเป็นมากแล้ว เราไม่สามารถทานยาได้มากตามอาการ)

ความสะอาดของแห่งที่มา และการผลิตว่า มีการปนเปื้อนของเชื้อโรค หรือสารพิษอื่นๆในสมุนไพร ซึ่งเป็นผลต่อการทำงานของตับและไตของผู้ป่วยเช่นกัน ทำให้การรักษามะุเร็งยิ่งยากขึ้น

เรื่องมันยาวครับ

ส่วนเรื่อง สารทรานสเฟอร์แฟกเตอร์นั้น รบกวนดูรายละเอียดในเวปเลยครับ ผมเขียนไว้เยอะพอสมควรแล้วครับ แต่ถ้ามีข้อสงสัยเพิ่มเติม โทรสอบถามได้นะครับ 0816516654 จะตอบแบบวิทยาศาสตร์ เป็นเหตุผลนะครับ แบบว่าไร้เหตุผลกินแล้วยังไม่รู้ชะตากรรม อันนี้ ไม่ชอบครับ

guest

Post : 13/04/2011 01:50     Forum: สอบถาม  >  คุณพ่อเป็นภูมิแพ้

ขอบคุณนะครับที่ถามมาครับ

ปกติทรานสเฟอร์ แฟกเตอร์ ผู้ที่รับประทานจะไม่เกิดอาการแพ้หรือดื้อยาใดๆทั้งสิ้นนะครับ เพราะโมเลกุลของสารสกัดทรานสเฟอร์ แฟกเตอร์นั้น มีขนาดเล็กกว่าไวรัสถึง 100 เท่า จึงไม่ส่งผลให้ร่างกายเกิดการต่อต้านแต่อย่างใดครับ และเป็นสารสกัดจากนมวัวและไข่ไก่ครับ ซึ่งก็ปลอดภัยเหมือนเช่นเราทานนมวัวและไข่ไก่เลยครับ

ส่วนเรื่องว่าทำไมถึงไอ มีเสมหะ เพิ่งเป็นเฉพาะช่วงนี้ใช่ไหมครับ และเป็นหนักเลยทีเดียว หรือว่าค่อยๆหนักขึ้นเรื่อยๆ

ในความเห็นผมคิดว่า น่าจะเกิดจากอาการป่วยจากสิ่งเร้า หรือเชื้อโรค แทรกซ้อนมากกว่าครับ เพราะถึงแม้เราใช้สารสกัดทรานสเฟอร์ แฟกเตอร์แล้วก็ตาม ก็มีได้หมายความว่าอาการเหล่านี้จะไม่เกิดขึ้น หรือเราจะไม่ป่วยไปเลย หรือหายจากโรคก็มิใช่ แต่สารสกัดทรานสเฟอร์ แฟกเตอร์ ฝาสีฟ้าที่คุณสั่งซื้อไปเมื่อวันที่ 19/2/54 นั้น มีคุณสมบัติในการปรับสมดุลของร่างกายให้ปกติมากที่สุด และในบางครั้งถ้าร่างกายอ่อนแอมาก หรือไปเจอเชื้อโรคชนิดใหม่ ก็อาจป่วยได้ แต่หายง่ายในเวลาอันสั้น

อีกประการหนึ่ง ก็อาจเป็นการปรับสมดุลของร่างกายผู้ป่วยก็เป็นได้นะครับ เพราะในกรณีผู้ป่วยประเภทภูมิแพ้จะมีการปรับสมดุล หรือขับสารพิษส่วนเกินบ้างในบางราย แต่โดยมากแล้ว จะเป็นในช่วงต้นของการเริ่มรับประทาน มีเพียงไม่กี่รายครับ ที่ต้องทานไปสักพัก อาจเป็นเวลา 1-3 เดือนจึงเกิดอาการนี้ครับ เราเรียก Healing Crisis ครับ แสดงถึงการมีสารพิษตกค้างในร่างกายครับ แล้ว ร่างกายมีการขับออกด้วยอาการต่างๆกันครับ

แล้ว ผมจะโทรหานะครับ ยังเก็บเบอร์โทรฯคุณไว้อยู่ครับ เผื่อต้องการข้อมูลเพิ่มเติมนะครับ

ขอบคุณครับ

guest

Post : 21/01/2011 13:24     Forum: สอบถาม  >  สอบถามเรื่องการจัดส่งและค่าส่ง

เรียน คุณ tal ทราบ

เรื่อง การจัดส่งสินค้า

     บริการจากทางร้านเราครับ คือ จัดส่งให้ฟรี ทั่วประเทศ ไม่ต้องจ่ายค่าจัดส่งเพิ่มให้ยุ่งยากอีกครับ

ส่วนเรื่องวิธีการจัดส่ง เราก็จัดส่งให้ทาง พัสดุ EMS หรือ ว่านัดเจอก็ได้ครับ

ส่วนระยะเวลาในการส่ง ถ้าโอนเงินก่อนเที่ยง ก็ส่งสินค้าก่อนเที่ยงครับ

                                   โอนเงินก่อน 15.30น. ก็ส่งสินค้าภายในวันที่โอนเงินทันทีครับ

สินค้าถือมือลูกค้า ใช้เวลาประมาณ 1-2 วันใน เขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล  และต่างจังหวัดในอำเภอเมือง

                            ส่วนพื้นที่อื่น ก็คงไม่เกิน 2-3 วัน เป็นอย่างมากที่สุดครับ (ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับว่าติดวันหยุดราชการหรือเสาร์-อาทิตย์  หรือ เหตุขัดข้องของทางไปรษณีย์ เท่านั้นครับ)

ทางร้าน shopzeza.com จัดส่งสินค้าให้กับลูกค้าทันทีหลังได้รับการยืนยันการโอนเงิน และแจ้งที่อยู๋แล้วครับ

           ขอบพระคุณอย่างสูง ที่สอบถามมายังร้านค้าของเรานะครับ

นับถือ

เมธีกิตติ์ (เล็ก)  081-651-6654

guest

Post : 22/10/2010 09:25     Forum: นานาสาระเก็บมาเล่า  >  มารู้จักเม็ดเลือดขาวกันเถอะ

จากข้อมูลเบื้องต้นที่คุณทินกรได้ให้ไว้นะครับ สันนิษฐานจากข้อมูลน่าจะมาจากได้หลายสาเหตุ เช่น กรรมพันธุ์ หรือระหว่างตั้งครรภ์ แม่มีอาจมีอาการป่วยหรือใช้ยาบางชนิดที่ส่งผลให้พัฒนาการของทารกในครรภ์เติบโตเพี้ยนไป ระบบสร้างภูมิคุ้มกันของลูกชายเลยเพี้ยนไปด้วย เป็นได้หลายสาเหตุนะครับ

ข้อแนะนำเบื้องต้น คือ แนะนำให้ลูกชาย ได้รับประทานนมแม่เยอะๆครับ ให้ระบบทางธรรมชาติเข้าไปปรับสมดุลร่างกาย เพราะลูกชายอายุแค่เพียง 14 เดือนเท่านั้นเอง ถ้าเป็นในผู้ใหญ่เราจะใช้ยากระตุ้นการผลิตเม็ดเลือดขาวได้

ถ้าเราดูแลที่บ้านเอง เราก็แนะนำให้ใช้น้ำผลไม้ ริโอวิด้าของเราในการช่วยเสริมการปรับสมดุลร่างกาย และกระตุ้นการผลิตเม็ดเลือดของน้องด้วยนะครับ รับประทานได้ตั้งแต่เด็กทารก และไม่ได้ใส่สารกันบูดด้วย อาจให้ลูกชายรับประทานโดยตรง หรือให้คุณแม่รับประทานแล้วให้นมลูกชายก็ได้ครับ

ข้อมูลเพิ่มเติม

ภาวะนิวโทรฟิลต่ำและการมีไข้ติดเชื้อ

นิวโทรฟิล ‘Neutrophil’ ถูกสร้างจากไขกระดูก มีช่วงชีวิตอยู่ในกระแสเลือดประมาณ 2-3 วัน ซึ่งถือว่าสั้นมากเมื่อเทียบกับเม็ดเลือดแดงที่มีอายุ 120 วัน หรือเกล็ดเลือดมีอายุ 7-8 วัน ปริมาณของนิวโทรฟิลในเลือดมีประมาณ 2,000-7,500 เซลล์ต่อมิลลิลิตร หรือร้อยละ 40-75 ของเม็ดเลือดขาวทั้งหมด

ภา วะนิวโทรฟิลต่ำหมายถึงปริมาณของนิวโทรฟิลในเลือดน้อยกว่า 1,500 เซลล์ต่อมิลลิลิตร จากการที่เคมีบำบัดทำลายไขกระดูกทำให้ปริมาณของนิวโทรฟิลลดลงเร็วกว่าเม็ด เลือดแดงหรือเกล็ดเลือดเพราะมีอายุสั้นกว่า โดยส่วนใหญ่ปริมาณของนิวโทรฟิลจะต่ำสุดเมื่อประมาณ 10-14 วันหลังจากได้รับเคมีบำบัด
ภาวะนิวโทรฟิลต่ำเกิดได้จากผลข้างเคียงของ เคมีบำบัดหรือรังสีรักษา ความเสี่ยงขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ได้แก่ สูตรและขนาดของยาเคมีบำบัดที่จะใช้ ประวัติการรักษาด้วยเคมีบำบัดและ/หรือรังสีรักษามาก่อน ปริมาณของไขกระดูกที่ได้รับผลกระทบจากรังสีรักษา เป็นต้น

ต่ำกว่า ร้อยละ 40 ของผู้ป่วยรับยาเคมีบำบัดสูตรมาตรฐานจะเกิดภาวะนิวโทรฟิลต่ำและการมีไข้ติด เชื้อ โอกาสการติดเชื้อจะสูงขึ้นถ้าจำนวนนิวโทรฟิลต่ำมากและระยะเวลาที่นิวโทรฟิล ต่ำนาน

อย่างไรก็ตาม อัตราการเสียชีวิตจากภาวะนี้ยังต่ำ มีข้อเสียของการเกิดภาวะนี้คือทำให้การรักษาด้วยเคมีบำบัดรอบถัดไปล่าช้าออก ไปและจำเป็นต้องลดขนาดยาลง

ยากระตุ้นเม็ดเลือดขาว

ส่ง ผลให้ไขกระดูกผลิตและปล่อยนิวโทรฟิลออกมาสู่กระแสเลือดมากขึ้น โดยจำนวนนิวโทรฟิลในเลือดจะลดลงในชั่วโมงแรก แต่จะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในเวลาต่อมา นอกจากนั้น ยังทำให้นิวโทรฟิลมีประสิทธิภาพในการทำลายแบคทีเรียและสิ่งแปลกปลอมอื่นๆ ได้ดีขึ้น

ผลข้างเคียงที่พบบ่อยคือ ปวดกระดูก กล้ามเนื้อและข้อเล็กน้อยถึงปานกลาง มักปวดบริเวณขา ก้นกบ ผิวหนังบริเวณที่ฉีดยาอาจจะแดงหรือปวด ทั้งนี้สามารถปรึกษาแพทย์ขอยาแก้ปวดได้

การรักษาหลักของมะเร็งรังไข่ คือการผ่าตัดและส่วนใหญ่แล้วจะต้องให้ยาเคมีบำบัดด้วย ดังนั้นปัญหาเรื่องเม็ดเลือดขาวต่ำจากยาเคมีบำบัดจึงพบได้เสมอๆ ยากระตุ้นเม็ดเลือดขาวได้ถูกใช้ร่วมกับการให้ยาเคมีบำบัดสูตรต่างๆในผู้ป่วย มะเร็งรังไข่

นับตั้งแต่มีการใช้ยากระตุ้นเม็ดเลือดขาวทางคลินิค อัตราความเสียหายที่เกิดจากปัญหาเรื่องเม็ดเลือดขาวต่ำ เช่น การอักเสบติดเชื้อ ไข้สูง น้อยลง และที่เป็นก็หายเร็วขึ้น การให้ยากระตุ้นเม็ดเลือดขาวควรให้จนกว่านิวโทรฟิลมากกว่า 10,000 หน่วยต่อมิลลิลิตร

ขอบคุณข้อมูลจาก คุณ Meena

guest
ทินกร
- Guest -

Post : 05/10/2010 16:52     Forum: นานาสาระเก็บมาเล่า  >  มารู้จักเม็ดเลือดขาวกันเถอะ

อยากทราบวิธีการรักษาหรือเราจะรู้ได้อย่างไรว่านิวโทรฟิลที่ต่ำตลอดนั้นเกิดจากสาเหตุอะไร(ลูกชายอายุ14เดือนนิวโทรฟิลต่ำตลอดเนื่องจากไปเจาะเลือดดูโดยเจาะอาทิตย์ละ2ครั้งเป็นเวลา8สัปดาห์ ก่อนหน้านั้นก็ตำ่่ำมาตลอด ต่ำกว่าเกณย์ที่กำหนด ปกติ คือไม่เคยถึง 25% เคยสูงสุดที่18%เท่านั้น)

guest

Post : 06/09/2010 17:19     Forum: สอบถาม  >  มะเร็งตับต้องดูแลอย่างไรค่ะ

ขอบคุณ คุณส้มนะครับที่ถามมาครับ ผมก็ว่าจะหาโอกาสเขียนเรื่องนี้เหมือนกันครับ ได้โอกาสเลยครับ งั้นของเขียนไว้ตรงนี้แล้วกันนะครับ

โรคมะเร็งตับ ปัจจุบันเป็นโรคท็อปฮิตแล้วครับ จากข้อมูลกระทรวงสาธารณสุขพบว่า ในผู้ชายเป็นโรคมะเร็งตับเป็นอันดับ 1 ครับ ในผู้หญิงส่วนมากเป็นที่อวัยวะอื่นแล้วจึงลามเข้าสู่ตับภายหลังซะมากกว่า ครับ เช่นจากปอด มดลูก หรือรังไข่ แล้วจึงเข้าตับครับ

สาเหตุของโรคมะเร็งตับ ผมขอแยกออกเป็นสาเหตุต่างๆ ดังนี้นะครับ

1. พันธุกรรม ส่วนตัวนะครับ ผมว่าค่อนข้างสำคัญ เพราะจากสถิติ เราพบว่าผู้ป่วยส่วนใหญ่ จะเคยมีญาติเป็นมะเร็งมาก่อนเสมอ และบางรายถ้าไม่เคยมีญาติเป็นโรคมะเร็งมากก่อน ตัวเองกลับเป็นมะเร็ง ก็มีครับ แต่จะพบว่าภายหลังก็จะมีญาติเป็นโรคมะเร็งเหมือนเราตามมาอีกครับ ไม่น่าเชื่อ แต่จำนวนผู้ป่วยและลูกค้าผมเป็นเช่นนี้จริงครับ แปลกมาก ลองอ่านกันต่อนะครับ

2. จากสภาวะแวดล้อม ผมคิดว่าเรื่องนี้สำคัญมากครับ แยกเป็นประเด็นย่อยๆ ได้ ดังนี้

  2.1 เรื่องอาหาร  อาหารแช่แข็ง อาหารที่ใส่สารกันบูด มียาฆ่าแมลงตกค้าง ผงชูรส(ตัวร้ายเลย) หรือบางคนชอบทานอาหารรสจัด เผ็ดจัด เค็มจัด มันจัด ล้วนส่งผลให้ตับทำงานหนักในการขับสารพิษออกจากร่างกาย

  2.2 น้ำ น้ำดื่มสะอาดก็พอครับ อันนี้ไม่จำเป็นต้องเป็นน้ำวิเศษ แยกโมเลกุลอะไรมากมายนะครับ น้ำสะอาดธรรมดานี่ล่ะครับ เพียงพอแล้ว หลายท่านทานน้ำน้อย ในแต่ละวัน เราควรทานน้ำให้ได้ ผู้ชาย 3 ลิตร ผู้หญิง 2.5 ลิตร โดยประมาณนะครับ ตรงนี้หมายถึงที่ร่ายกายได้รับจากอาหารทุกอย่างรวมกัน เช่นในขนมปังแห้งก็มีน้ำนะครับ ที่ให้ทานน้ำเพราะ น้ำจะนำพาของเสียต่างๆ ออกจากร่างกาย และช่วยสมดุลกรด-ด่างด้วยครับ (แต่มากเกินก็ไม่ดีนะครับ จะทำให้ไตทำงานหนัก) วิธีทานน้ำคือ ควรทานทีละน้อย แล้วเว้นช่วงทุก 30 นาทีครับ เพื่อลดการทำงานหนักของไตครับ คนทำงานห้องแอร์ ก็ยิ่งต้องทานน้ำนะครับ ตัวแห้งจริงนะ

  2.3 อากาศ  อากาศที่เราหายใจก็ส่งผล เพราะปริมาณก๊าชหรือฝุ่นละอองเจือปนในอากาศ เป็นเหตุให้เกิด อนุมูลอิสระ หรือการระคายเคืองในเยื่อบุปอดได้ อย่างเช่่นคนงานเหมือง หรือก่อสร้าง หรือคนสูบบุหรี่ (บุหรี่นี่เรื่องยาวคงต้องเขียนต่างหากครับ แต่อันตรายมากส่งผลต่อคนรอบข้างแม้เราดับบุหรี่แล้วก็ตาม) แถบนิคมอุตสาหกรรม ฝนกรด โอ๊ยเยอะแยะครับ ผมเคยได้ออกบูสที่โรงพยาบาลสมเด็จพระนางเจ้าฯที่สัตหีบครับ เขาขึ้นบอร์ดไว้เลยครับ ผู้ป่วยมะเร็งทั่วประเทศ จังหวัด ชลบุรี จันทบุรี ระยอง ตราด มีผู้ป่วยมะเร็งสุดมากระดับต้นๆ ของประเทศเลยนะครับ

3. ความเครียด  ใครที่ระหว่างวันไม่เครียดบ้างครับ คุณอาจจะเครียดแบบไม่รู้ตัวก็ได้ครับ ถ้าห้ามเครียดคงไม่ได้ งั้นให้เครียดน้อยๆ แล้วเรามาหาวิธีสลายความเครียด (เช่นออกกำลังกาย หรือสวดมนต์ นั่งสมาธิ ดีมากเลยนะครับ) หรือเพิ่มสารต้านอนุมูลอิสระเยอะช่วยแทนครับ (พวกวิตามินต่างๆ โดยเฉพาะวิตามิน ซี) ดีที่สุด

4. การพักผ่อนใ้ห้เพียงพอ  ควรพักผ่อนอย่างน้อยวันละ 6-8 ชั่วโมง

5. การขับถ่ายของเสียออกจากร่างกายเป็นประจำ  การถ่ายทุกวัน (ปกติควรถ่ายทุกวัน อย่างน้อยวันละ 1 ครั้ง) ถ้าในผู้ป่วยมีการล้างพิษด้วยจะดีมาก เช่นการสวนกาแฟ หรือการรับประทานอาหารที่มีผลทางล้างพิษ (ติดไว้ทีหลังนะครับ) เป็นการช่วยขับสารพิษออกจากตับ เพราะบางครั้งตับขับออกไม่ทันจริงเกิดการสะสมในร่างกาย คนปกติก็ควรทำนะครับ

6. การมีระบบภูมิต้านทานของร่างกายที่สมบูรณ์แข็งแรง  ที่กล่าวมาทั้งหมดข้างต้นนั้น เราทำเพื่อให้ระบบภูมิคุ้มกันร่างกายทำงานได้อย่างสมบูรณ์เต็มประสิทธิภาพ เพราะร่างกายแข็งแรงปราศจากการเจ็บป่วยก็เกิดจากการทีมีระบบภูมิคุ้มกันที่ มีประสิทธิภาพนะครับ สังเกตได้จากว่าผู้ป่วยทุกรายมีปริมาณเม็ดเลือดขาวต่ำ หรือไม่ก็มีกิจกรรมน้อย อันเป็นสาเหตุหลักสำคัญในการทำให้เกิดโรคติดเชื้อ หรือการลุกลามของมะเร็งในที่สุด

               เมื่อเราทราบถึงสาเหตุของโรคมะเร็งแล้วนะ ครับ ผมจะให้หลักการง่ายๆในการดูแลและร่วมการรักษาของแพทย์นะครับ หลักการอันนั้นก็คือ "การป้องกันไม่ให้เซลล์มะเร็งใหม่เกิดขึ้น และการทำลายให้เซลล์มะเร็งที่มีอยู่แล้วลดลงหรือหมดไป" เคยได้ยินมาก่อนไหมครับ อันนี้ผมคิดเองครับ เพราะด้วยเหตุและผลแล้ว หลักการก็มีอยู่แค่นี้เองครับ แต่การทำให้หลักการนี้สมบูรณ์นั้น ประกอบด้วยอะไรบ้าง เราก็ค่อยๆ ศึกษาและปฏิบัตินะครับ คือ

     1. ที่สำคัญคือ เข้ารับการตรวจรักษาตามที่แพทย์นัดครับ เพราะเราจะำได้ทราบถึงพัฒนาการของโรคและวางแผนการรักษาที่ถูกวิธีที่สุดได้ อย่างต่อเนื่อง รับการรักษาตามที่แพทย์แนะนำ ถึงแม้จะมีงานวิจัยบางอย่างพบว่า  การฉายรังสี และยาเคมีบำบัดส่งผลในการรักษาให้หายขาดได้น้อย แต่ก็เป็นการช่วยยับยั้งการแพร่กระจายของโรคได้เป็นอย่างดี ผมไม่เห็นด้วยที่จะทำการรักษาเพียงด้านเดียว เช่น โภชนาการบำบัด ชีวจิต การใช้สมุนไพร ซึ่งในความเห็นของผม เป็นเชิงป้องกันจะชัดเจนกว่าครับ แต่เราควรทำการดูแลแบบองค์รวม คือการป้องกันและทำลายครับ

     2. การได้รับอาหารครบทั้ง 5 หมู่ในปริมาณที่เพียงพอ เพราะว่าในผู้ป่วยโรคมะเร็ง จะมีอาการเบื่ออาหาร ยิ่งมะเร็งตับด้วยแล้ว เพราะตับโต ไปกดกระเพาะอาหารทำให้ทานอาหารอิ่มเร็ว ผมแนะนำให้ทานครั้งละน้อย แต่บ่อยครั้ง อาจแยกเป็น 6 มื้อ (เช้า สาย เที่ยง บ่าย เย็น ค่ำ) งดอาหารพวกของหวานหรือรสจัด หรืออาหารปรุงแต่ง ควรทำเองที่บ้านไม่ใช่ผงชูรส ดื่มน้ำผักและผลไม้คั่นสดแทนน้ำเปล่าได้ยิ่งดี เพื่อไม่ให้พื้นที่กระเพาะอาหารถูกใช้อย่างสิ้นเปลือง ผมไม่เห็นด้วยเรื่องการรับประทานชีวจิตในช่วยทำการรักษาใหม่ๆ เพราะขณะทำการรักษาร่างกายต้องการสารอาหารจำนวนมากในการฟื้นฟูและเพิ่มภูมิ ต้านทาน และเรามาจำกัดอาหารอีก ส่งผลให้ผู้ป่วยเข้าสู่ภาวะขาดสารอาหารได้ ร่างกายจะยิ่งอ่อนแอลง และเป็นสาเหตุที่ทำให้ผู้ป่วยเสียชีวิตอีกด้วย ฉะนั้นผู้ป่วยของผมจะแนะนำให้ทานทุกอย่างครับที่สะอาดและทำเองที่บ้าน ถ้าสามารถทำให้อ้วนหรือน้ำหนักขึ้นได้ยิ่งดีครับ ป้องกันน้ำหนักลดโดยการใช้ โอเมกา3 (Omaga3) ช่วยให้น้ำหนักลดช้า และเกิดการอยากอาหารร่วมด้วยจะดีมากยิ่งขึ้น (อ่านเพิ่มเติมจากนานาสาระเก็บมาเล่านะครับ)

     3. พยายามอยู่ในบริเวณที่มีอากาศบริสุทธิ์ ให้มากที่สุดครับ ถ้าจำกัดก็ใช้การสวนสาธารณะก็ได้ครับ ในช่วงเช้าและเย็น ให้ออกกำลังกายตามความสามารถของผู้ป่วยครับ เช่นเดิน หรือการแกว่งแขน ก็ได้

     4. ถ้าเป็นไปได้ควรหลีกเลี่ยงความเครียดให้มากที่สุด หยุดทำงานได้ยิ่งดี แต่ถ้าหยุดไม่ได้ ก็รับผิดชอบให้น้อยลงครับ มีงานวิจัยพบว่า การทำสมาธิสามารถช่วยให้ร่างกายสร้างสารในการต่อต้านเซลล์มะเร็งได้ (อันนี้รวมถึง สวดมนต์ การดูหนังตลก การร้องและฟังเพลง) ขอแค่เป็นสมาธิเพียงเล็กน้อยก็ยังดี แต่ยิ่งมากยิ่งดีนะครับ เป็นการลดการเกิดเซลล์มะเร็งใหม่จากอนุมูลอิสระที่ร่างกายสร้างขึ้นครับ

     5. พักผ่อนให้มากๆ เพื่อให้ร่ายกายได้ฟื้นฟูอย่างรวดเร็ว

     6. เป็นไปได้ควรทำการล้างสารพิษด้วยวิธีการต่างๆ เช่นการสวนกาแฟ หรือการทานผักผลไม้ ล้างพิษ

     7. ผู้ป่วยต้องการกำลังใจจากคนรอบข้างเป็นอย่างมาก ซึ่งสำคัญในการต่อสู้โรคอย่างยิ่ง

     8. การฟื้นฟูระบบภูมิต้านทานร่างกายให้กลับมาทำงานอย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด โดยการปฏิบัติตามวิธีการข้างต้น และเสริมให้ยิ่งขึ้นด้วยผลิตภัณฑ์เสริมประสิทธิภาพภูมิคุ้มกัน ทรานสเฟอร์ แฟกเตอร์ ซึ่งสามารถเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้แต่ทุกคนได้ 200-400% ภายใน 48 ชั่วโมง ตรงนี้มีงานวิจัยรับรองจากสถาบันวิจัยชั้นนำกว่า 54 ทั่วโลกครับ ลองศึกษาข้อมูลอย่างละเอียดนะครับ เพราะมันค่อยข้างใหม่สำหรับเมืองไทย แต่มันเป็นการป้องกันและรักษาสุขภาพแนวใหม่ในส่วนของสาเหตุโรคอย่างแท้จริง ครับ

          ถ้ามีตรงไหนไม่กระจ่าง ถามเข้ามาอีกนะครับ ยินดีครับ ผมจะหาคำตอบมาตอบให้ในทุกคำถามครับ ถ้าไม่รู้จะถามพี่หมอ พี่เภสัช มาตอบให้นะครับ

 

guest

Post : 02/08/2010 11:53     Forum: สอบถาม  >  การรักษามะเร็งด้วยชีวจิต

ครับ ยินดีครับ ในปัจจุบัน มีคนมากมายหันมาสนใจในการรักษามะเร็งด้วยวิธีธรรมชาติมากขึ้น เพราะหลายท่านก็ข้อมูลมาว่าการรักษาด้วยยาเคมีบำบัดและฉายรังสีนั้น บางครั้งทำให้เกิดอาการข้างเคียงมาก และการรักษาก็มีราคาสูง จนกระทั่งว่ามีการรักษาด้วยแพทย์แล้วเสียชีวิตก็มาก แต่ในความเห็นของผมว่า เราควรทำการรักษาควบคู่กันไปทั้งแผนปัจจุบันเป็นหลัก แล้วถ้าต้องการจะเสริมด้วยวิธีธรรมชาติ หรือสมุนไพรก็ได้ครับ แต่ในการเสริมด้วยวิธีธรรมชาตินั้น ผมก็เน้นย้ำด้วยว่า เราต้องดูแลเรื่องโภชนาการให้ครบถ้วนด้วย เพราะระหว่างการรักษาร่างกายต้องได้รับการบำรุงอย่างเต็มที เพื่อให้ร่างกายสามารถฟื้นฟูแข็งแรงได้อย่างรวดเร็ว และการใช้สมุนไพรนั้น เราก็ต้องระวังด้วยในเรื่องความสะอาด และอย่าให้ไปเพิ่มการทำงานของตับ เพราะในการรักษามะเร็งนั้นเราก็เน้นย้ำเรื่องสา่รพิษ ที่ตับต้องทำการกำจัดออก อย่าให้ตับทำงานหนักเกินจะทำให้ผู้ป่วยยิ่งมีอาการแย่ลงมากกว่า ในการรักษามะเร็งนั้น เราเน้นในเรื่องการทำให้ร่างกายแข็งแรง และต้องฟื้นฟูระบบภูมิคุ้มกันร่างกาย ให้มีประสิทธิภาพเต็มที จึงสามารถทำลายเซลล์มะเร็งได้ดียิ่ง

การรักษาและดูแลผู้ป่วยโรคมะเร็งนั้น เป็นเรื่องละเอียดอ่อน และ้ต้องระมัดระวัง เพื่อให้สุขภาพของผู้ป่วยฟื้นตัวอย่างเร็ว

หลักการคือ

1. ปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์เจ้าของไข้ และเข้ารักษาตามที่แพทย์นัดอย่างสม่ำเสมอ

2. รับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ อาจเสริมด้วยโปรตีนพืช วิตามิน เกลือแร่ และสารต้านอนุมูลอิสระตามสมควร เพื่อเป็นการสกัดการเกิดเซลล์มะเร็งเกิดใหม่ และฟื้นฟูร่างกายอย่างรวดเร็ว

3. ออกกำลังกาย พักผ่อนให้เพียงพอ ขับถ่ายและกำจัดของเสีย สารพิษ ออกจากร่างกาย เป็นประจำ

4. เพิ่มสมดุลของระบบภูมิคุ้มกันร่างกายให้มีประสิทธิภาพสูงสุด เพื่อให้ร่างกายสามารถกำจัดเซลล์มะเร็ง เชื้อโรคแปลกปลอม และลดอาการข้างเคียง ระหว่างรับการรักษา

guest

Post : 18/07/2010 00:00     Forum: สอบถาม  >  มะเร็งเต้านม

ในการดูแลร่างกายสำหรับผู้ป่วยมะเร็งนั้นมีเรื่องสำคัญที่ต้องคำนึงถึงอยู่คือ

1. เรื่องภาวะโภชนาการ คือควรรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ ไม่ควรอดอะไร โดยเฉพาะช่วงที่ยังรับการรักษาด้วยเคมีบำบัดหรือฉายรังสี แต่ของคุณแอนนั้น อยู่ในขั้นติดตามอาการ เราก็แนะนำให้ทานอาหารให้ครบ 5 หมู่เช่นเดิมครับ แต่ต้องเป็นอาหารที่สะอาด ปลอดสารเคมี และฮอร์โมน สารเร่งโต เป็นต้น เพราะมะเร็งเต้านมหรือรังไข่ มดลูก ก็ล้วนมีสาเหตุเกี่ยวพันกับฮอร์โมนร่างกายทั้งสิ้น และควรเน้นอาหารที่มีสารต้านอนุมูลอิสระมากๆ เช่นผักและผลไม้ หากทานได้น้อย ผมก็อยากแนะนำให้ใช้อาหารเสริมช่วยด้วยจะเป็นเรื่องดียิ่ง เช่น วิตามินซี วิตามินรวม โอเมก้า3 เป็นต้น ซึ่งวิตามินและเกลือแร่ แต่ละชนิดก็สามารถป้องกันการเกิดซ้ำของมะเร็งในชนิดที่แตกต่างกันครับ

2. เน้นเรื่องความเครียด เราอาจจะไม่รู้สึกตัวว่า ระหว่างวันมีความเครียดมากหรือน้อยเท่าไหร่ แต่ผมแนะนำว่า ควรเครียดให้น้อย หรือหลีกเลี่ยงให้มากที่สุด และควรหาเวลาวันละประมาณอย่างน้อย 30นาที ในการสวดมนต์หรือนั่งสมาธิ มีงานวิจัยระบุว่าการทำสมาธิหรือจิตสงบเพียงเล็กน้อย สามารถทำให้ร่างกายสร้างสารต่อต้านอนุมูลอิสระออกมาได้อย่างดี

3. เน้นมากที่สุด คือ เรื่องของการเสริมสร้างภูมิคุ้มกันร่างกาย ให้สมบูรณ์และแข็งแกร่งอยู่เสมอ เพราะระบบภูมิคุ้มกันร่างกาย คือหัวใจหลักในการต่อต้านเชื้อโรค สิ่งแปลกปลอม ตลอดทั้งเซลล์มะเร็งที่เกิดขึ้นในร่างกายเราตลอดเวลา และทุกวันเราเผชิญกับ สารพิษ ความเครียด การพักผ่อนน้อย ภาวะโภชนาการต่ำ ฯลฯ ทำให้ภูมิคุ้มกันร่างกายเราลดต่ำลง เมื่อภูมิต้านทานเราต่ำ ก็เป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้เราเจ็บป่วยง่าย และมีความเสี่ยงในการเป็นมะเร็งสูงขึ้น ผลิตภัณฑ์ทรานสเฟอร์ แฟกเตอร์ เป็นผลิตภัณฑ์ที่มีการค้นคว้าและวิจัย ทดลองจากสถาบันวิจัยโรคมะเร็งของอเมริกา ว่าสามารถช่วยกระตุ้นการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันร่างกาย ให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้นอย่างชัดเจน คือ 200-400% จากเดิม จึงส่งผลให้ภูมิต้านทานร่างกาย สามารถทำลายเชื้อโรค สิ่งแปลกปลอมหรือเซลล์มะเร็งที่กำลังเริ่มก่อตัวขึ้น หรือก่อตัวขึ้นมาแล้ว ได้อย่างดี และมีประสิทธิภาพเต็มที ฉะนั้น การเสริมสร้างให้ระบบภูมิคุ้มกันร่างกายแข็งแรง ก็คือการป้องกันการเกิดขึ้นใหม่ซ้ำของมะเร็งเดิม และยังช่วยในการรักษาให้มีประสิทธิผลดียิ่ง อย่างชัดเจน

guest

Post : 11/07/2010 16:45     Forum: สอบถาม  >  เวลาในการจัดส่ง

 ผมสามารถจัดส่งเป็นไปรษณีย์ด่วนพิเสฃศษให้ได้ ฟรีครับ และสินค้าจะถึงภายใน 1-2 วันทำการแน่นอนครับ

1